จากตอนที่แล้ว เราได้ทำความรู้จักเครื่องนาฬิกาออโตเมติกขนาดเล็กของ ETA กันแล้ว วันนี้เรามาทำความรู้จัก สายการผลิตหลัก ที่เป็นส่วนสำคัญของเครือสวอทซ์กรุ๊ปกันครับ โดยเราจะพูดถึงกลุ่มเครื่องนาฬิกากลไกขนาดกลางและขนาดใหญ่ สำหรับนาฬิกาข้อมือขนาดมาตรฐานไปจนถึงนาฬิกาพกพา (Pocket Watch)

ภาพนาฬิกานักบินสไตล์ย้อนยุคจาก Laco watches ในรุ่น Pilot watch original replica 55

ภาพจาก laco-watches.com

          เครื่องนาฬิกาในกลุ่มนี้ ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากนาฬิกาพกพา ที่เป็นกลไกดั้งเดิมแบบไขลานหลงเหลืออยู่ และยังมีกลไกที่เพิ่มส่วนโมดูลออโตเมติก ซึ่งเป็นกลไกยอดนิยมและเป็นต้นแบบสำหรับการย่อส่วน (Miniature) ในกลุ่มนาฬิกาขนาดเล็กอีกด้วย

สำหรับเครื่องนาฬิกาไขลาน

          เป็นกลไกที่ใช้ตั้งแต่ยุคนาฬิกาพกพา มีกลไกชุดเฟืองที่เป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนากลไกออโตเมติก ทำงานที่ความถี่ต่ำ ให้ความทนทาน ลดอัตราการศึกหรอในแต่ละชิ้นส่วน ประกอบด้วย 2 รุ่นยอดนิยมคือ

          เครื่อง 6497 เป็นเครื่องนาฬิกาสำหรับพกพาโดยแท้ ถูกออกแบบให้มีตำแหน่งแกนไข (stem) และเม็ดมะยม (Watch crown) ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และวงวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา แต่เมื่อนำมาจัดวางในตำแหน่งของนาฬิกาข้อมือ โดยทั้งเครื่องตามเข็มนาฬิกาไป 90 องศา ทำให้ตำแหน่งเม็ดมะยมอยู่ที่ 3 นาฬิกา และตำแหน่งวงวินาที อยู่ที่ 9 นาฬิกา นอกจากนี้ยังมีกลไก 6498 ซึ่งใช้ชุดเฟืองเวลาในพื้นฐานเดียวกัน จัดวางตำแหน่งบนแป้นเครื่องหลักต่างกันเล็กน้อย โดยเครื่องรหัส 6498 นั้นเมื่อจัดวางในตัวเรือนนาฬิกาข้อมือแล้วจะมีตำแหน่งเม็ดมะยมที่ 3 นาฬิกาและวงวินาทีย่อยที่ 6 นาฬิกา

          ทั้งสองเครื่องถูกผลิตมาด้วยกัน 2 ความถี่คือ รหัส 649x – 1  จะทำงานที่ความถี่ 2.5 Hz (18,000vph) และรหัสท้าย 649x – 2 จะทำงานที่ความถี่ 3 Hz (21,600vph) โดยในเครื่องแต่ละความถี่จะมีโครงสร้าง องค์ประกอบพื้นฐาน จำนวนจักรเดินเวลาเท่ากัน แต่จะใช้ความถี่เฟืองของจักรเดินเวลาที่แตกต่างกันเพื่อทดกำลังตามความถี่ให้ถูกต้อง

          เครื่องนาฬิกาไขลานนี้ ถูกใช้ในนาฬิกาหลากหลายรุ่น เช่น Officine Panerai Caliber OP XI เครื่องนาฬิกาข้อมือไขลาน ที่ถูกปรับแต่งในหลากชิ้นส่วนเช่น การออกแบบแป้นทับจักรเดินเวลา (Train wheel bridge) ขึ้นใหม่ รวมถึงการใช้สกรูสีน้ำเงิน (Blue screw) เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับกลไก

ภาพฝาหลังนาฬิกา Panerai รุ่น PAM112 เผยให้เห็นการออกแบบแป้นปิดจักรใหม่ สกรูสีน้ำเงิน และการขัดแต่งแบบ Côtes de Genève

ภาพจาก thewatchology.com

สำหรับเครื่องนาฬิกาออโตเมติก

          มีการพัฒนาต่อยอดจากกลไกไขลานโดยเพิ่มโมดูลระบบขึ้นลานอัตโนมัติ โดยอาศัยการเคลื่อนไหวร่างกาย (ข้อมือ) เพื่อผลักตุ้มเหวี่ยงให้หมุนขึ้นลาน ส่งให้ใช้งานนาฬิกาได้สะดวกและยังมีความทนทาน ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากกับผู้ใช้นาฬิกาทั่วโลก

          เครื่องนาฬิกาออโตเมติก จาก ETA นั้นมาในรุ่นพื้นฐานรหัส 2824 แบบสามเข็มกลาง และช่องแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ทำงานที่ความถี่ 4 Hz (28,800vbh) สำรองพลังงานได้สูงสุด 38 ชั่วโมง และรหัส 2836 ในพื้นฐานเดียวกันและเพิ่มกลไกแสดงผลวันประจำสัปดาห์ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา

          กลไกรหัสนี้ถูกใช้นาฬิกาหลากรุ่นจากหลายผู้ผลิต ทั้งในและนอก Swatch Group เช่น Tudor Black Bay ในตัวเรือนดำน้ำแบบคลาสสิค ขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมดีไซน์การออกแบบย้อนยุค (retro style) จากนาฬิกาดำน้ำของแบรนด์ในอดีต

           ในปัจจุบัน เครื่อง ETA 2824 ถูกพัฒนาขึ้นในหลายคุณสมบัติ เช่น นาฬิกา Rado HyperChrome Captain Cook Limited Edition ที่ใช้เครื่องนาฬิกา ETA C07.611 ซึ่งมีพื้นฐานมาจากกลไก 2824-2 ได้ถุกพัฒนาให้สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมงจากการออกแบบกระปุกลานและจักรเหล็ก (escapement wheel) ใหม่ ที่ลดแรงต้านในระบบลง

ภาพนาฬิกา Rado HyperChrome Captain Cook Limited Edition  ขนาดตัวเรือน 37.3 มิลลิเมตร

ภาพจาก rado.com